
การเลือกประกันชีวิตถือเป็นการวางแผนทางการเงินระยะยาว ดังนั้น การเข้าใจความแตกต่างระหว่างประเภทประกันแต่ละแบบจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ตรงกับเป้าหมายทางการเงิน
อย่างแรก ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เป็นแบบที่คุณจ่ายเบี้ยประกันเป็นระยะเวลาที่กำหนด และจะได้รับเงินคืนทั้ง ทุนประกัน + เงินปันผล เมื่อครบกำหนดสัญญา
ข้อดี:
– เป็นเครื่องมือออมเงินระยะยาว มีเงินก้อนเมื่อครบสัญญา
– คุ้มครองชีวิตตลอดระยะเวลาที่จ่ายเบี้ย
– เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินพร้อมคุ้มครองชีวิต
ข้อเสีย:
– เบี้ยประกันอาจสูงกว่าแบบตลอดชีพในช่วงเริ่มต้น
– หากยกเลิกก่อนครบกำหนด อาจได้รับเงินคืนไม่เต็มจำนวน
เหมาะกับใคร:
– ผู้ที่ต้องการออมเงินระยะยาว เช่น เพื่อการศึกษา หรือเก็บเงินก้อนสำหรับอนาคต
– คนที่ต้องการความมั่นคงและคุ้มครองชีวิตในช่วงเวลาที่กำหนด
ต่อมา ประกันชีวิตแบบตลอดชีพเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิตตลอดชีพ จนกว่าผู้เอาประกันจะเสียชีวิต ไม่ว่าจะเกิดเมื่อใดก็ตาม
ข้อดี:
– คุ้มครองชีวิตตลอดชีพ ไม่จำกัดระยะเวลา
– มีมูลค่าซื้อคืนสะสมเพิ่มขึ้นตามระยะเวลา
– ช่วยวางแผนมรดกหรือสภาพคล่องให้ครอบครัว
ข้อเสีย:
– เบี้ยประกันรายปีสูงกว่าแบบสะสมทรัพย์
– ไม่เน้นเงินก้อนกลับเมื่อครบสัญญา แต่เน้นความคุ้มครองยาว
เหมาะกับใคร:
– ผู้ที่ต้องการคุ้มครองชีวิตตลอดชีพและวางแผนมรดกให้ครอบครัว
– คนที่พร้อมจ่ายเบี้ยประกันระยะยาวเพื่อความมั่นคงสูงสุด
โดยสรุปแล้ว
– ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทั้ง ออมเงินและคุ้มครองชีวิต ในช่วงเวลาที่กำหนด
– ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ความคุ้มครองตลอดชีวิตและการวางแผนมรดก
ดังนั้น การเลือกแบบไหนขึ้นอยู่กับ เป้าหมายทางการเงิน ระยะเวลาที่ต้องการคุ้มครอง และความสามารถในการจ่ายเบี้ย
มิตรสิบ ลิสซิ่ง บริการจัดไฟแนนซ์รถแท็กซี่ทุกรูปแบบ ทั้งป้ายแดง มือสอง รถแท็กซี่ไฟฟ้า (EV) และสินเชื่อโซลาร์เซลล์ ผ่อนสบาย ไม่ยุ่งยาก สมัครง่าย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย ทีมงานยินดีให้คำปรึกษาฟรี!